เหตุผลที่คนเราต้องทำ  เพราะว่าเราไม่มีโอกาสล่วงรู้วันเวลา  ว่า วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเจอกับอะไรในวันต่อไป  วันนี้ยังคงสวัสดีวันจันทร์กันในวันนี้  แต่พรุ่งนี้ไม่รู้เลย  ความรับผิดชอบในชีวิตคือภารกิจที่สำคัญ  ในบทบาทที่เราได้รับ  หากในฐานะหัวหน้าครอบครัว  นี่คือความจำเป็นที่ยิ่งใหญ่  ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายในส่วนของการศึกษาบุตร  ค่าใช้จ่ายในการดูแลของทั้งครอบครัว  นี่เองจึงเป็นเหตุผลหลักของการต้องทำประกันชีวิต  เสาหลักต้องมั่นคง  ขาดเราไป เขายังอยู่ และต้องอยู่ได้อย่างดี   การมีประกันจึงเป็นเหมือนผู้ช่วยดูแลครอบครัวแทนเรานั่นเอง

          แบบประกันที่ว่าดี  คือ แบบประกันที่ผ่านการสำรวจความต้องการของเราแล้ว  ต้องตอบตัวเองก่อนว่า  วัตถุประสงค์หลักคือ ต้องการปกป้องชีวิตจากความกังวลใจในด้านไหน  เช่น  ต้องการส่งต่อเป็นมรดกให้คนข้างหลัง หรือต้องการกันเงินส่วนนี้ไว้เพื่อทุนการศึกษาบุตร  แบบนี้คือ นำความต้องการเรามาก่อน  จากนั้นค่อยมาดูแบบประกัน     ว่าแบบไหนที่เหมาะกับความต้องการของเรา  สามารถอ่านบทความที่เกี่ยวกับแบบประกันได้จากในลิงค์ด้านล่าง

          เรื่องของการที่จะเลือกบริษัทประกันชีวิตนั้น  ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีให้เลือกมากมาย  คงจะชี้ชัดถึงชื่อบริษัท  อาจเป็นการไม่ยุติธรรมกับบริษัทอื่น ๆ  ว่ากันตามหลักการ  หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกบริษัทได้ตามหลักการนี้  คือ  ความน่าเชื่อถือของบริษัท  ความมั่นคงของสถานะทางการเงินของบริษัทนั้น ๆ เลือกได้ตามเกณฑ์ค่ะ

           คำถามนี้ยังคงเป็นคำถามที่คาใจของคนที่จะเริ่มต้นทำกันเลย  ประกันชีวิตกับประกันสุขภาพเป็นสัญญาคนละตัวกันค่ะ   ประกันชีวิตคือสัญญาประกันหลัก  ที่ทำหน้าที่คุ้มครองชีวิตเรา ส่วนประกันสุขภาพคือ สัญญาเพิ่มเติม ที่ทำหน้าที่คุ้มครองดูแลในส่วนของสุขภาพ  ดังนั้น การจะทำประกันสุขภาพจึงต้องมีตัวของสัญญาประกันหลัก แล้วถึงจะมีประกันสุขภาพได้

           หมายเหตุ   ปัจจุบัน มีแบบประกันที่ไม่พ่วงกับประกันชีวิต ที่เป็นสัญญาประกันสุขภาพปีต่อปี   คำอธิบายดังกล่าวข้างต้น  ใช้เกณฑ์ของบริษัทประกันชีวิตมาตอบ  ความแตกต่างของการซื้อประกันสุขภาพที่มีประกันชีวิตคือ  เราได้รับความคุ้มครองชีวิต แล้วยังสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมในกลุ่มสุขภาพไปจนถึงระยะยาวได้   ดังนั้นเลือกได้ค่ะ ว่าจะซื้อแบบรวมประกันชีวิต  หรือไม่รวมประกันชีวิต

           อายุมีผลกับเบี้ยประกันสุขภาพ  โดยปกติแล้ว  เบี้ยประกันสุขภาพจะมีการแบ่งเกณฑ์ราคาของเบี้ยตามช่วงอายุ สุขภาพมีผลต่อการทำประกันสุขภาพ  สุขภาพที่ดี  เบี้ยประกันสุขภาพจะอยู่ในราคาปกติ  หากพบว่ามีปัญหาด้านสุขภาพบางอย่าง  อาจมีการปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นแล้วแต่กรณีไป

           คำแนะนำเพิ่มเติม  การทำประกันสุขภาพ  ควรทำตอนสุขภาพแข็งแรง  เพราะหากทำหลังจากเป็นโรคแล้ว  โรคที่เป็นมาก่อน  จะไม่คุ้มครองการรักษา

           สำหรับผู้ที่จะทำประกัน  หากมีประวัติความดันและรับการรักษามาตลอด  สามารถทำประกันได้แต่ต้องไปตรวจสุขภาพโดยแพทย์ที่แต่งตั้งจากบริษัทประกัน

         หากป่วยแล้วพ้นระยะเวลารอคอย 30 วันไปแล้ว  โดยไม่มีปัญหาสุขภาพหรือประวัติที่เป็นที่น่าสงสัยก่อนทำประกัน  ไม่ต้องสำรองจ่าย  ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัท  ติดต่อสอบถามได้จากตัวแทนหรือช่องทางที่เราเลือกรับบริการ  ปัจจุบันมีบริการติดตามขั้นตอนการเคลมประกันผ่านช่องทางของแอปพลิเคชันเพิ่มความสะดวกให้กับเราได้อีกทาง

          ประกันกลุ่ม คือ ประกันที่เรียกว่า ประกันติดโต๊ะ หากเราลุกออกไปเมื่อไหร่ สิทธิของเราจะหายไปทันที วันนี้เราคงทำหน้าที่ ทำงานให้กับบริษัทและบริษัทมอบสวัสดิการนี้ให้ เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง แต่อย่าลืมว่า ชีวิตของการทำงานอาจไม่แน่นอน เราอาจจะต้องย้ายบริษัทไปทำงานที่อื่น หรือกรณีอื่น ๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้ การมีทางเลือกให้กับตัวเราจึงเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมไว้บ้าง วันนี้หากยังมีสวัสดิการของบริษัท ลองเช็คสวัสดิการว่า ประกันกลุ่ม ให้ผลประโยชน์ในด้านไหนบ้าง เพื่อว่าวันนี้จะได้เริ่มทำในส่วนที่ประกันกลุ่มไม่มีให้ เริ่มต้นแบบง่าย ๆ เช็คดูก่อนค่ะ

          ด้วยรูปแบบของชีวิตที่มีทางเลือกให้เรามากขึ้น  นี่จึงเป็นโอกาสทองของเรา  ที่จะได้เลือกช่องทางด้วยการตัดสินใจของเรา  ที่สามารถเปรียบเทียบได้ทุกอย่าง  ทั้งด้านราคา  ด้านการให้บริการหลังการขาย  การเลือกช่องทางก็คือ  การที่เราตัดสินใจเลือกคนที่จะมาดูแลเรา  ดังนั้น  เลือกคนที่พร้อมจะดูแล  หากเกิดกรณี เจ็บป่วยฉุกเฉิน  และหากมีคำถามที่ต้องการคำตอบ  อยู่ที่เราค่ะ

       ข่าวดีของคนที่ส่งประกันชีวิตมาแล้วด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาสักพัก  อย่าทิ้งประกัน  เช็คก่อนค่ะ   เพราะเรามีทางเลือกถึง 3 ทางด้วยกัน  นั่นคือ

●      หยุดส่ง เปลี่ยนมาเป็นการเวนคืนกรมธรรม์  แบบนี้คือ ความคุ้มครองสิ้นสุดลง  รับเงินจากมูลค่าตามตารางที่แนบในกรมธรรม์ (สามารถดูได้ในเล่ม)

สรุปแบบนี้คือ  ทางเลือกของคนที่ต้องการใช้เงินทันที  และไม่ซีเรียสเรื่องความคุ้มครองชีวิตแล้ว

●      หยุดส่ง  เปลี่ยนมาเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จ  แบบนี้คือ ความคุ้มครองชีวิตยังคงมีอยู่ แต่จำนวนเงินที่คุ้มครองชีวิตลดลง เช่น จากเดิมคุ้มครองชีวิต 1,000,000 บาท  เมื่อเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จแล้ว  จะได้รับความคุ้มครองชีวิตเท่ากับอัตราใหม่ที่ลดลง  ดูได้จากตารางที่แนบในกรมธรรม์  เนื่องจากแต่ละแบบจะมีมูลค่าที่ไม่เท่ากัน)

สรุปแบบนี้คือ  ทางเลือกของคนที่ต้องการคงความคุ้มครองชีวิตไว้  แต่จำนวนเงินที่คุ้มครองชีวิตลดลง

●      หยุดส่ง เปลี่ยนมาเป็นกรมธรรม์ขยายระยะเวลา  แบบนี้จะมีจุดที่แตกต่างจากแบบใช้เงินสำเร็จตรงที่ระยะเวลาของความคุ้มครองชีวิตจะลดลง  เช่น  จากเดิมกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองชีวิต 20 ปี  เมื่อเปลี่ยนมาเป็นแบบขยายระยะเวลา  ระยะเวลาก็อาจจะลดลงเหลือ 15 ปี แบบนี้เป็นต้น  (นี่เป็นการยกตัวอย่างให้เห็นภาพ  ส่วนระยะเวลาดูได้จากตารางที่แนบในเล่มกรมธรรม์)

สรุปแบบนี้คือ  ทางเลือกของคนที่ต้องการคงความคุ้มครองชีวิต  และรับได้กับเงื่อนไขของระยะเวลาปีที่คุ้มครองลดลง  โดยที่จำนวนเงินของความคุ้มครองยังคงเท่าเดิม